POPS WORLDWIDE - LEADING DIGITAL ENTERTAINMENT IN SOUTHEAST ASIA

Blogs

Macro หรือ Micro Influencers แบรนด์ควรเลือกใช้แบบไหน?

2021/01/31

แนวทางในการเลือกใช้ Macro หรือ Micro Influencers สำหรับแบรนด์

เทรนด์การใช้ Influencer ในการโปรโมทสินค้าหรือบริการของแบรนด์ มีอัตราการจ้างเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี โดยเฉพาะในปี 2020 มีการทำ Influencer Marketing มากกว่าปกติ จากการที่คนดูใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น

โดยอินฟลูเอนเซอร์จะแบ่งประเภทได้ตามจำนวนผู้ติดตาม ซึ่งแสดงถึงมูลค่าและชื่อเสียงของอินฟลูเอนเซอร์นั้น เช่น Macro Influencers มีผู้ติดตามตั้งแต่ 5 แสน ขึ้นไป ก็จะมีราคาในการจ้างสูง หรือ Micro Influencers ซึ่งมีผู้ติดตามไม่ถึง 5 หมื่นคน ก็จะมีราคาที่ถูกกว่า แต่ราคานี้ไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการตัดสินใจทำแคมเปญการตลาดให้ประสบความสำเร็จเสมอไป…

    1. แบรนด์ควรใช้ Micro Influencers เมื่อต้องการสร้าง Engagement

      Micro Influencers มีโอกาสสร้างการมีส่วนร่วมกับแคมเปญการตลาดได้ดีกว่า โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ แฟชั่น, เกม หรือ อาหาร ซึ่งจากการเก็บสถิติโดย Adweek พบว่า กลุ่มคนดูของ Micro Influencers จะมีความชอบสิ่งเดียวกันอย่างเหนียวแน่น ทำให้คนดูคอนเทนต์เหล่านี้มี Engagement ดีกว่าแคมเปญทั่วไปถึง 60% เพราะคนดูส่วนมากเชื่อว่า การรีวิวของ Micro Influencers เกิดจากการใช้งานจริง และเป็นความรู้สึกจริงมากกว่า Macro Influencers จึงเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมกับโพสต์หรือคอนเทนต์การตลาดนั้น

    2. Micro Influencers สามารถสร้างกระแสการพูดถึงแบรนด์ได้ยาวนานกว่า

      เมื่อแบรนด์ต้องการทำแคมเปญกับอินฟลูเอนเซอร์ ในระยะเวลาที่ยาวนานต่อเนื่อง ด้วยงบประมาณที่จำกัด อาจจะจ้าง Macro Influencers ได้เพียง 1 หรือ 2 คน ซึ่งทำให้ไม่สามารถสร้างแคมเปญการตลาดได้นานเพียงพอ ด้วยเหตุนี้ แบรนด์จึงต้องพิจารณา Micro Influencers ที่สามารถจ้างงานได้หลายคนในช่วงเวลาของแคมเปญ ดังนั้น Micro Influencers จึงสามารถสร้างกระแสการพูดถึงแบรนด์ได้ดีกว่าสำหรับแคมเปญการตลาดระยะยาว

    3. เมื่อแบรนด์ต้องการสร้าง Awareness ให้กับกลุ่มเป้าหมายใหม่ Macro Influencers คือทางเลือกที่ดีที่สุด

      Macro หรือ Celebrities Influencers แม้จะไม่สามารถสร้าง Engagement ได้ดีเท่ากับ Micro แต่กลุ่ม Macro จะมีโอกาสในการเข้าถึง (Reach) ได้มากกว่า หากมีการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่จะมาทำแคมเปญได้อย่างเหมาะสมแล้ว จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Snowball Effect ได้มาก คือคอนเทนต์นั้นถูกกล่าวถึงในวงกว้างแบบไวรัล ก็จะเกิดการรับรู้ในตัวสินค้าและแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักสินค้านั้นมาก่อน ได้ดีขึ้นอีกด้วย

    4. กลุ่มเป้าหมาย Niche ควรใช้ Micro ส่วนกลุ่ม Mass ใช้ Macro

      เมื่อแบรนด์ทราบกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะตัว หรือ Niche ที่มีความชอบอย่างใดอย่างหนึ่งคล้ายๆ กัน ควรเลือกใช้ Micro Influencers ในสายนั้น ซึ่งจะสร้าง Conversion ได้ดี ขณะเดียวกัน Macro Influencers จะช่วยกระจายการพบเห็นแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างกว่า ซึ่งทำให้เกิดการพูดคุยบนโลกโซเชียลได้ดีกว่า จึงเหมาะกับการสร้าง Awareness ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ไม่เคยพบเห็นแบรนด์มาก่อนได้

    5. ใช้ Influencers ทั้งสองกลุ่มควบคู่กัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

      แคมเปญการตลาดจะประสบความสำเร็จได้มากขึ้น เมื่อแบรนด์สามารถจัดการแคมเปญให้เข้าถึงกลุ่มคนที่เป็น Potential Leads ได้ ซึ่งการจะเข้าถึงกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด ควรต้องทำแคมเปญทั้ง Micro และ Macro Influencers ควบคู่กันไป เช่น วางแผนการทำ Micro กับกลุ่มเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ง เพื่อสร้าง Conversion ไปพร้อมๆ กับการพยายามสร้างให้เกิดการพูดถึงแบรนด์หรือสินค้าในวงกว้างด้วย Macro Influencers ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว จะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบครบถ้วน และสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างน่าพึงพอใจ


หากคุณคือ นักการตลาด และกำลังมองหาอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างแคมเปญการตลาดให้กับสินค้าของคุณ ที่ POPS Thailand เรามีทีมงานที่ช่วยคุณค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะกับวัตถุประสงค์ทางการตลาดของแคมเปญให้กับคุณได้ ติดต่อ POPS ได้ที่ phakaporn@popsww.com